ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้คนต่างปรับตัวกับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง ที่กำลังขับเคลื่อนตลาดแรงงานและสังคม แต่เมื่อพูดถึงการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี-โท อะไรคือสิ่งที่อยู่ในใจพวกเขา?
การสำรวจล่าสุดจาก Deloitte Gen Z & Millennial Survey 2025 : เจาะเทรนด์คนทำงานรุ่นใหม่ เปิดเผยว่า แม้วัยทำงานรุ่นใหม่ไทยให้ความสำคัญกับการเรียนต่อในระดับนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก แต่ก็มีเหตุผลชัดเจนที่ทำให้พวกเขาบางส่วนเลือกไม่เรียนต่อระดับอุดมศึกษา ด้วยกังวลถึงคุณภาพการเรียน และค่าใช้จ่ายในระบบการศึกษาในปัจจุบัน
รายงานการสำรวจของ Deloitte ดังกล่าว ได้สำรวจความคิดเห็นคนรุ่นใหม่ทั่วโลกกว่า 23,500 คน ใน 44 ประเทศ ซึ่งรวมถึงกลุ่มตัวอย่างคนไทย 330 คน (แบ่งเป็น Gen Z 209 คน และ Gen Y 121 คน) พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับมุมมองต่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา หรือที่เฉพาะเจาะจงว่าเป็น บัณฑิตศึกษา (Post-Bachelor’s Degree) ในหลากหลายมิติ เริ่มจากแง่มุมของการเลือกเรียนต่อ-ไม่เรียนต่อระดับปริญญา พบว่าเริ่มมีบางส่วนที่ขอไม่เรียนต่อดีกว่า?!
Gen Z 16% และ Gen Y 17% ในไทย เลือกไม่เรียนต่อปริญญา
แม้ว่าโดยภาพรวมแล้ว คนไทยทั้ง GenZ และ Gen Y จะให้ความสำคัญกับการเรียนต่อในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรีมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังมีชาว Gen Z ในประเทศไทยถึง 16% และ Gen Y 17% ที่ระบุว่าพวกเขา “ตัดสินใจไม่เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา” อย่างไรก็ตาม ถือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 31% สำหรับ GenZ และ 32% สำหรับ Gen Y
สำหรับกลุ่มที่เลือกไม่เรียนต่อในประเทศไทยนั้น มีเหตุผลหลักๆ ที่น่าทำความเข้าใจ ซึ่งสะท้อนถึงบริบททางสังคมและเศรษฐกิจในบ้านเรา ได้แก่
1. สถานการณ์ส่วนตัว/ครอบครัว:
เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับ GenZ ไทยถึง 50% และ Gen Y ไทย 38% ซึ่งสอดคล้องกับการที่สถานการณ์ครอบครัวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่มีความเครียด โดยเฉพาะ Gen Y ที่มีความกังวลสูงเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิกในครอบครัว อาจเนื่องจากต้องดูแลทั้งพ่อแม่และลูกเล็กไปพร้อมกัน
2. ข้อจำกัดด้านการเงิน ทุนทรัพย์:
เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับ GenZ ไทย 44% และ Gen Y ไทย 38% ปัญหานี้เชื่อมโยงโดยตรงกับ ความกังวลเรื่องค่าครองชีพ ซึ่งเป็นประเด็นที่ “หลอกหลอน” คนรุ่นใหม่ไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นอันดับ 1 ของความกังวลโดยรวมติดต่อกัน 3 ปี
3. ต้องการความยืดหยุ่นและเรียนรู้ด้วยตัวเอง:
Gen Z 32% และ Gen Y 38% อยากเลือกการเรียนรู้รูปแบบอื่นๆ ด้วยตัวเอง เช่น ลงคอร์สเรียนทักษะเฉพาะทางต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะการทำงานของคนรุ่นใหม่มากกว่า โดยเฉพาะ Gen Z ที่มีรูปแบบงานหลากหลาย ทั้งงานประจำ Part-time หรือ Freelance การเรียนแบบเดิมๆ ที่ไม่ยืดหยุ่นอาจไม่ตอบโจทย์วิถีชีวิตและการทำงานของพวกเขา
4. วางแผนทำธุรกิจเอง:
GenZ 32% และ Gen Y 24% อยากทำธุรกิจมากกว่าจะเรียนต่อ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองที่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนรุ่นใหม่ชอบเปลี่ยนงาน โดยเฉพาะ GenZ อยากวางแผนทำธุรกิจมากกว่า Gen Y เนื่องจาก GenZ มองว่าตนเองยังมีโอกาสในการค้นหาและเริ่มต้นใหม่ได้มากกว่า
5. กลัวจ่ายหนี้กู้ยืมการศึกษาไม่ไหว:
คนไทยส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องรายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย และไม่มีเงินเก็บ โดยให้ความสำคัญกับปัญหาการเงินระยะสั้นมากกว่าระยะยาว อีกทั้ง หนี้กู้ยืมการศึกษา ก็เป็นอีกหนึ่งความกังวลที่ทำให้ GenZ 26% และ Gen Y 29% เลือกไม่เรียนต่อ
เด็กไทยเริ่มกังวลระบบการเรียนไม่สอดคล้องกับตลาดงาน-ค่าเล่าเรียนแพง
นอกจากเหตุผลส่วนตัวในการไม่เรียนต่อแล้ว แม้แต่กลุ่มคนที่พิจารณาเรียนต่อก็ยังมีความกังวลต่อ ระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือบัณฑิตศึกษา ในประเทศไทย โดยจากผลสำรวจชี้ว่า ข้อกังวลต่างๆ ของคนรุ่นใหม่มีอยู่ 5 ข้อ ได้แก่
1. คุณภาพการศึกษา: เป็นข้อกังวลลำดับต้นๆ ทั้งใน GenZ (48%) และ Gen Y (50%) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามเรื่องการศึกษาแสดงความกังวลในประเด็นนี้
2. ค่าเล่าเรียนแพง: เป็นความกังวลใหญ่ไม่แพ้กัน สำหรับ GenZ 44% และ Gen Y 43% ย้ำให้เห็นถึงปัญหาด้านการเงินที่เป็นอุปสรรค ทั้งต่อการเข้าถึงและทัศนคติต่อการศึกษาในระดับสูง
3. โอกาสฝึกประสบการณ์จริงมีน้อย: GenZ (31%) และ Gen Y (24%) มองว่านี่เป็นข้อจำกัดของหลักสูตรปัจจุบัน
4. เนื้อหาหลักสูตรไม่สอดคล้องกับตลาดงาน: เป็นข้อกังวลสำหรับ GenZ 22% และ Gen Y 26% ทำให้การเรียนต่ออาจไม่ตอบโจทย์การเติบโตทางอาชีพโดยตรงเท่าที่ควร
5. ระบบการเรียนไม่มีความยืดหยุ่น: ทั้ง GenZ (19%) และ Gen Y (17%) มองว่า เป็นประเด็นที่ต้องปรับปรุง ซึ่งสอดคล้องกับเหตุผลในการไม่อยากเรียนต่อของคนรุ่นใหม่ไทยบางส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่น หรือต้องการเรียนคอร์สสอนทักษะที่ตนเองต้องการจริงๆ
ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า แม้คนรุ่นใหม่ไทยส่วนใหญ่จะยังคงมองว่าการศึกษาในระดับสูงยังมีความสำคัญ แต่การตัดสินใจของพวกเขาก็ถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ ปัญหาส่วนตัว และความคาดหวังต่อรูปแบบการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพ ค่าใช้จ่าย และความยืดหยุ่นของระบบการศึกษาปัจจุบัน ก็เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้และตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง uglymales