ราคาทองคำวันนี้ (24 กันยายน 2568)
ราคา ทองคำ ประจำวันที่ 24 กันยายน 2568 เปิดตลาดเช้าวันพุธมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) หลังจากที่ราคา ทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
สมาคมค้าทองคำประกาศราคา ทองคำประจำวันนี้ โดยมีการปรับราคาหลายครั้งตลอดทั้งวัน แต่ในภาพรวมมีทิศทางปรับลดลง
- ราคา ทองคำแท่ง 96.5%
- รับซื้อ: 56,850.00 บาท
- ขายออก: 56,950.00 บาท
- ราคา ทองรูปพรรณ 96.5%
- รับซื้อ: 55,713.00 บาท
- ขายออก: 57,750.00 บาท
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ทองคำคำ
- การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ: การที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมักจะส่งผลให้ราคา ทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากทองคำมีราคาที่อ้างอิงกับเงินดอลลาร์
- แรงขายทำกำไร: หลังจากราคา ทองคำคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก นักลงทุนบางส่วนจึงขายทำกำไรออกมาเพื่อรักษาส่วนต่างของราคา
- สถานการณ์เศรษฐกิจโลก: นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งหากมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ก็จะส่งผลให้ราคา ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำแนะนำว่า ในช่วงที่ ราคา ทองคำ มีความผันผวนสูง นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด และพิจารณากลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม เช่น การซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว (Buy on Dip) และการแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ราคา ทองคำคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญในตลาดการเงินโลก การทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)
โดยทั่วไปแล้ว ราคา ทองคำคำจะมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับค่าเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคา ทองคำคำที่ซื้อขายในสกุลเงินนี้จะดูแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ทำให้ความต้องการซื้อลดลงและราคาทองคำปรับตัวลดลง ในทางกลับกัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำจะดูมีราคาถูกลงและดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น
2. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีผลกระทบโดยตรงต่อราคา ทองคำ
- เมื่อ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย: การลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น พันธบัตรหรือเงินฝาก จะมีความน่าสนใจมากขึ้น ทำให้เงินทุนไหลออกจากทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
- เมื่อ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย: ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ จะลดลง ทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ความคุ้มครองความมั่งคั่ง
3. ภาวะเงินเฟ้อ
ทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าของเงินจะลดลง นักลงทุนจึงหันมาถือทองคำเพื่อรักษามูลค่าของสินทรัพย์ ซึ่งทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและผลักดันราคาให้สูงขึ้น
4. สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอน
ในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม หรือวิกฤตเศรษฐกิจโลก นักลงทุนมักจะมองหาที่พักพิงที่ปลอดภัยสำหรับเงินทุนของตน ทองคำจึงถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven) เมื่อมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในตลาดโลก ความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น
5. อุปสงค์และอุปทาน
เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ราคา ทองคำ ก็ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก
- อุปสงค์: มาจากความต้องการทองคำในรูปของเครื่องประดับ การลงทุน (ทองคำแท่ง, กองทุน ETF) และการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
- อุปทาน: มาจากการผลิตในเหมืองทองคำ และการนำทองคำเก่ามารีไซเคิล
การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ทิศทางของ ราคา ทองคำ ได้อย่างรอบด้าน และตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน uglymales