เที่ยวไทยคนละครึ่ง (หรือชื่อโครงการเดิม “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่หลายคนคุ้นเคย) เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว
สำหรับโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ที่กำลังจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นั้น มีรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ที่เข้าร่วมดังนี้
1. ประเภทผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ: โครงการเปิดรับผู้ประกอบการหลากหลายประเภท เพื่อให้ครอบคลุมการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ได้แก่:
- โรงแรม/ที่พัก: รวมถึงรีสอร์ตต่างๆ ที่มีใบอนุญาตประกอบการธุรกิจโรงแรม หรือมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)
- ร้านอาหาร: ร้านอาหารทั่วไปที่ลงทะเบียนเข้าร่วม
- ร้านขายของที่ระลึก: ร้านที่จำหน่ายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
- ร้านค้า OTOP: ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
- แหล่งท่องเที่ยว/กิจกรรมท่องเที่ยว: เช่น ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว, กิจกรรมผจญภัย
- สปา/นวดเพื่อสุขภาพ: สถานประกอบการที่มีใบรับรองมาตรฐาน
- รถเช่า/เรือเช่า: ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ
2. จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ (แบ่งตามเมืองหลักและเมืองรอง): โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ในครั้งนี้จะครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่มีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ที่แตกต่างกันระหว่าง “เมืองหลัก” และ “เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรองให้มากขึ้น
- ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก:
- เมืองหลัก: กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ประจวบคีรีขันธ์, เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สระบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง
- เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว: ลพบุรี, สุพรรณบุรี, นครนายก, สระแก้ว, ตราด, จันทบุรี, สมุทรสงคราม, ปราจีนบุรี, ชัยนาท, อ่างทอง และสิงห์บุรี
- ภาคเหนือ:
- เมืองหลัก: เชียงใหม่
- เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว: เชียงราย, พิษณุโลก, ตาก, เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สุโขทัย, ลำพูน, อุตรดิตถ์, ลำปาง, แม่ฮ่องสอน, พิจิตร, แพร่, น่าน, กำแพงเพชร, อุทัยธานี และพะเยา
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน):
- เมืองหลัก: นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, อุบลราชธานี
- เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว: หนองคาย, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, เลย, นครพนม, บึงกาฬ, ศรีสะเกษ, สกลนคร, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, ยโสธร, มุกดาหาร, และอุดรธานี
- ภาคใต้:
- เมืองหลัก: กระบี่, กาญจนบุรี, พังงา, สงขลา, สุราษฎร์ธานี (บางข้อมูลจัดกาญจนบุรีอยู่ภาคตะวันตก)
- เมืองรอง/เมืองน่าเที่ยว: ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, ระนอง, สตูล
เงื่อนไขการใช้สิทธิ์เพิ่มเติม
- ห้ามใช้สิทธิ์ในจังหวัดตามทะเบียนบ้าน: ผู้ใช้สิทธิ์ไม่สามารถใช้สิทธิ์โรงแรม/ที่พักในจังหวัดเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตนเองได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางข้ามจังหวัด
- ส่วนลดค่าที่พัก:
- วันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์): รัฐช่วย 50% ของค่าที่พัก (สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน)
- วันหยุด (เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์): รัฐช่วย 40% ของค่าที่พัก (สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน)
- คูปองดิจิทัล (E-Voucher):
- ประชาชนจะได้รับคูปองมูลค่า 500 บาทต่อห้องต่อคืน เมื่อเช็กอินที่พักสำเร็จ
- คูปองนี้สามารถใช้จ่ายได้ที่ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนชำระ 50% และรัฐสนับสนุนอีก 50% ผ่านคูปอง
- คูปองจะหมดอายุเวลา 23:00 น. ของวันเช็กเอาต์
วิธีค้นหารายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วม:
หลังจากที่โครงการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแล้ว (1 กรกฎาคม 2568) ผู้ใช้สิทธิ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้ผ่าน:
- เว็บไซต์ เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com uglymales
- แอปพลิเคชัน Amazing Thailand (ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่องทางหลักในการจองที่พักและใช้คูปอง)
ดังนั้น หากคุณสนใจเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” แนะนำให้เตรียมตัวลงทะเบียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และติดตามรายละเอียด รวมถึงรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมได้จากช่องทางของ ททท. และเว็บไซต์โครงการโดยตรงครับ